วันพฤหัสบดีที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

คาถาสาลิกาลิ้นทอง



คาถาสาลิกาลิ้นทอง
ปุพพภาสี อุตตานะมุขี.

รูปยันต์สาลิกาลิ้นทอง


อุปเท่ห์แห่งคาถา
คาถาสาลิกาลิ้นทองนี้ จะมียันต์ประกอบหรือไม่ก็ได้ เป็นคาถาประเภทเมตตามห่นิยมที่ได้ผลจริง คือใช้เพื่อให้การพูดจาเป็นที่นิยมเชื่อถือ หรือเป็นที่รักใคร่เมตตาของผู้ที่ได้ยินคำพูด และต้องการขอร้องอะไรกับใครก็ได้ ในสมัยโบราณพวกนักแสดงใช้กันทั่วไป ทั้งในละครใน ละครนอก ลิเก มโนห์รา เป็นต้น


ปุพพภาสี(เรียกตัวผู้ แปลว่าพูดก่อน,ทักก่อน)
อุตตานะมุขี(เรียกว่าตัวเมีย แปลว่ามีหน้าตายิ้มแย้มแจ่มใส เป็นที่ชื่นใจของผู้พบเห็น คนที่ประกวดนางสาวไทย นางสาวจักรวาล เป็นต้น จะต้องเข้าใจความหมายของคาถาสาลิกาลิ้นทองตัวเมียทุกคน

ยันต์สาลิกาลิ้นทอง จะเขียนด้วยอักษรเขมรของชาวกัมพูชา
๑. เขียนลงด้วยนิ้วชี้ลงในใบยามู(ใบฝรั่งที่เกือบจะแก่) เสกด้วยคาถาสาลิกาลิ้นทอง แล้วค่อยๆเคี้ยวกิน

๒. หรือเขียนด้วยนิ้วชี้ลงที่ลิ้น ภาวนาคาถาสาลิกาลิ้นทอง ๑๐๘ หนก็ได้

๓.หรือเขียนด้วยเหล็กจาร ลงในแผ่นทองคำเล็กๆหรือแผ่นเงินก็ได้ เสกด้วยคาถาสาลิกาลิ้นทอง ๑๐๘ คาบ ม้วนเป็นตะกรุดติดตัวได้อย่างถาวร

ทางที่ดีที่สุด ควรเขียนลงในใบยามู เพราะจะได้กลืนกินเข้าไปภายในร่างกาย
หมายเหตุ
ยันต์สาลิกาลิ้นทองนี้ เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า ยันต์พระตรีมูรติ(หมายถึง มะ =พระพรหม, อะ =พระศิวะหรือพระอิศวร, อุ =พระวิษณุหรือพระนารายณ์)
ส่วนการเขียนลงในแผ่นเงินแผ่นทอง เพิ่งนิยมทำกันในภายหลัง โดยในขั้นแรก เกจิอาจารย์ชาวเขมรใช้เป็นวิธีหาเงินในเมืองไทย ครั้นต่อมาเกจิอาจารย์ชาวไทย เลียนแบบทำบ้าง

คาถาปะฐะมังขุนแผน



คาถาปะฐะมังขุนแผน

สำหรับปลุกเสกพระขุนแผน
@นะโม พุทธายะ อิติปาระมิตาติงสา
(โอมสรรพคนทั้งหลาย) มีน้ำใจมารักแก่กู
อิติสัพพัญญุมา อิติโพธิปัตโต
อิติปิโส จะเตนะโม
นะเมตตา,โมกรุณา, พุทปรานี,
ธายินดี, ยะเอ็นดู
ยะหันตัว, ธาเมามัว, พุทพาตัวมาหากู
โมสมสู่, นะรักแก่กูจนตาย
โอมละลวยมหาละลวย
(หญิงชาย) เห็นหน้ากูก็งงงวย จงใจรักทักปราศรัย
ออ,ระน้อม, ออ.ระมัย, น้อมนำเข้ามาหากู
(หญิงชาย) รู้ว่ากู, ออ. นอ. ออ.. รัก สวาหะ
อุอู ปุปู ลุลู, เอหิ เอหิ พรัหมะจิตตัง
เขตัง ขันติ, นะโม พุทธายะ.

อุปเห่ห์แห่งคาถา
คาถาปะฐะมังขุนแผนนี้ ใช้ทำนองเดียวกับคาถามหาละลวยดังกล่าวข้างต้น คือใช้ได้ทั้งเมตตามหานิยม และเสน่ห์มหานิยม

ถ้าจะให้เป็นเสน่ห์มหานิยม(เฉพาะคนใดคนหนึ่ง) สมมุติว่าคนนั้นชื่อ นายแดง คำในวงเล็บ คือ(โอมสรรพคนทั้งหลาย)  ให้เปลี่ยเป็นว่า(โอมนายแดง)

คำในวงเล็บที่ ๒ และที่ ๓ คือ(หญิงชาย) ให้เปลี่ยนเป็นว่า(นายแดง)

อีกประการหนึ่ง คาถานี้ใช้สำหรับปลุกพระขุนแผนโดยเฉพาะ คือ เวลาเราอาราธนาพระขุนแผนติดตัวไปไหนๆให้ปลุกเสกด้วยคาถานี้ ๓ หน มิฉะนั้นพระขุนแผนจะไม่ศักดิ์สิทธิ์ตามประสงค์

แต่คาถาปะฐะมังขุนแผนนี้ มีวิธีใช้เป็นหลักคือสำหรับเสก แป้งปะฐะมังขุนแผน ซึ่งมีวิธีทำดังต่อไปนี้

๑.ผู้จะทำ แป้งปะฐะมังขุนแผน ให้แผ่เมตตาและกินอาหารมังสวิรัติ(กินเจ) ก่อนเข้าพิธี ๗ วัน(ถ้าเป็นนักบวชอยู่แล้ว ไม่ต้องปฎิบัติตามข้อนี้ แต่ต้องเป็นนักบวชที่มีศีลบริสุทธิ์)

๒.ให้เลือกเอาวันโกน(ก่อนวันเพ็ญ) เตรียมแป้งดินสอพองไว้ตามที่ต้องการมากน้อย และกระดานชะนวน ถ้าไม่มีกระดานชะนวนให้ใช้ผ้าดำแทน อาบน้ำชำระร่างกายให้บริสุทธิ์สะอาด นุ่งชาวห่มขาว(ถ้ามิใช่นักบวช) พอเห็นแสงเดือน(หรือทำให้ตนเองเห็นแสงเดือน) ก็เริ่มไหว้พระบูชาพระรัตนตรัย แล้ววางกระดานชะนวน หรือผ้าดำ(พับ ๓ ชั้น) ต่อหน้าพระพุทธรูป บูชาด้วยดอกไม้ธูปเทียน ใช้ดินสอพองเขียน  ยันต์พระเจ้า ๕ พระองค์ทรงเครื่อง  ลบอักขระแห่งยันต์ โดยภาวนามหามนต์อันศักดิ์สิทธิ์ว่า

ปะฐะมัง ทันทะโลโปจะ, ในเมื่อจะลบอักขระ,พินทุอักขระ, เสด็จจะลงมาเกิดเป็นนามอักขระ เรียกว่าตัวนะ, นะนี้แหละหรือคือพระกุกกุสันโธ.ข้าฯขออาราธนาพระกุกกุสันโธ, เสด็จจะลงมาเกิดเป็นนามอักขระ, เรียกว่าตัวนะม นกาโร โหมิ สัมภะโว

ทุติยัง ทันทะโลโปจะ,ในเมื่อจะลบอักขระ,พินทุอักขระ,เสด็จจะลงมาเกิดเป็นนามอักขระ,เรียกว่าตัวโม.โมนี้แหละหรือคือพระโคนาคมน์, ข้าฯขออาราธนาพระโกนาคมน์,เสด็จจะลงมาเกิดเป็นนามอักขระ,เรียกว่า ตัวโม,โมกาโร โหมิ สัมภะโว

ตะติยัง ทันตะโลโปจะ,ในเมื่อจะลบอักขระ,พินทุอักขระ.เสด็จจะลงมาเกิดเป็นนามอักขระม เรียกว่าตัวพุท, พุทนี้แหละหรือคือพระพุทธกัสสปะ, ข้าฯ ขออาราธนาพระพุทธกัสสปะ,เสด็จจะลงมาเกิดเป็นนามอักขระ, เรียกว่าตัวพุท, พุทกาโร โหมิ สัมภะโว

จะตุตถัง ทันตะโลโปจะ, ในเมื่อจะลบอักขระ,พินทุอักขระ, เสด็จจะลงมาเกิดเป็นนามอักขระ,เรียกว่าตัวธา,ธานี้แหละหรือคือพระสมณโคดม, ข้าฯขออาราธนาพระสมณโคดม,เสด็จจะลงมาเกิดเป็นนามอักขระ,เรียกว่า ตัวธา, ธากาโร โหมิ สัมภะโว

ปัญจะมัง ทันทะโลโปจะ, ในเมื่อจะลบอักขระ,พินทุอักขระ, เสด็จจะลงมาเกิดเป็นนามอักขระ,เรียกว่าตัวยะ,ยะนี้แหละหรือคือพระศรีอริยเมตไตรย, ข้าฯขออาราธนาพระศรีอริยเมตไตรย,เสด็จจะลงมาเกิดเป็นนามอักขระ เรียกว่าตัวยะ,ยะกาโร โหมิ สัมภะโว

๓.คำว่า ลบอักขระแห่งยันต์ คือ ใช้ผงดินสอพองทั้งหมด(ตามข้อ ๒) ลบลงบนยันต์พระเจ้า ๕ พระองค์ ทรงเครื่องซึ่งมีรูปอักขระดังนี้




๔. บี้แป้งดินสอพองให้ละเอียด และใช้มือขวาพินทุด้วย คาถาปะมังขุนแผน ตามกำลังวัน คือ
๔.๑ วันอาทิตย์เสก ๖ หน
๔.๒ วันจันทร์เสก ๑๕ หน
๔.๓.วันอังคารเสก ๘ หน
๔.๔ วันพุธเสก ๑๒ หน
๒.๕ วันพฤหัสบดีเสก ๑๙ หน
๔.๖ วันศุกร์เสก ๒๑ หน
๔.๗ วันเสาร์เสก ๑๐ หน
เป็นวันว่าเสร็จพิธี

๕. ให้เก็บแป้งปะฐะมังขุนแผนนี้ไว้ที่หน้าพระ(ถ้าที่บ้านมีห้องพระ)ส่วนหนึ่งปนกับแป้งที่ใช้เป็นประจำ เมื่อจะทาแป้งหรือประทินเครื่องสำอางอื่นๆก็ผสมเข้าด้วยและให้เสกด้วย คาถาปะฐะมังขุนแผน อีก ๑ หน ถ้าให้คนอื่นไปใช้ ก็ต้องให้คาถาแก่เขาไปใช้ด้วย

หมายเหตุ
๑.ที่เรียกคาถานี้ว่า คาถาปะฐะมังขุนแผน เพราะเมื่อลบอักขระขึ้นต้นด้วยคำว่า ปะฐะมัง
๒.แป้งปะฐะมังขุนแผนนี้ ถ้าเน้นในทางอยู่ยงคงกระพัน ให้ลบอักขระด้วย คาถาขุนแผนออกศึก (ซึ่งจะกล่าวถึงในภายหลัง)
๓.คาถาปะฐะมังขุนแผนนี้ ได้มาจากของอาจารย์หนู อำเภอเขาไชยสน จังหวัดพัทลุง ใครจะนำไปใช้ แบบครูพักลักจำ หรือ แบบคาถาลอดล่อง ก็ได้ แต่ควรทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้อาจารย์หนูด้วย ท่านได้ถึงแก่ความตายไปนานแล้ว

คาถามหาละลวย



คาถามหาละลวย

@ออ.อา. นะเมตตา, ออ.อา. โมกรุณา
ออ. อา. พุทปรานี,ออ.อา.ธายินดี, ออ. อา ยะเอ็นดู
ออ.อา. ละลวยมหาละลวย,ระทดระทวย
กอ.ออ. นอ. โม  โอ อ่อนจิต
กอ.ออ.นอ. โม โอ อ่อนใจ
กอ.ออ.นอ. โม โอ อาลัย
กอ.ออ.นอ.โม โอ รักใคร่
กอ.ออ.นอ.โม โอ ให้สิเนหา สงสาร
กอ.ออ.นอ. โม โอ มนุษย์
(ชื่อมนุษย์) ใจพาล มารักแก่กู
อิติปิโส อะนิจจา กามะอุชุ รักกูเถิดลูกพระธรรม.

อุปเท่ห์แห่งคาถา
คาถามหาละลวยนี้ เป็นทั้งคาถาประเภทเมตตามหานิยม(คือให้คนทั่วไปรักใคร่นับถือ) และเป็นทั้งประเภทเสน่ห์มหานิยม(คือเกี่ยวกับความรักทางเพศ)

ถ้าจะให้เป็นเสน่ห์มหานิยม(เฉพาะคนใดคนหนึ่ง) สมมุติว่าคนนั้นชื่อ นายดำ  คำในวงเล็บว่า(ชื่อมนุษย์) ให้เปลี่ยนเป็นคำว่า (ชื่อนายดำ) ใจพาล...

เมื่อท่านนำตนเองเข้าใกล้มวลชนเป้าหมาย หรือเป้าหมายจำเพาะ(นายดำ) ให้ท่านเข้าทางเหนือลม(ถ้าทำได้) และภาวนามหาละลวยอีกหนหนึ่ง แล้วเป่าลมไปหาเป้าหมายนั้น